วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เชลซี กาหัว ฮาแลนด์ ล่าตาข่ายซัมเมอร์หน้า

 อังเจโล่ แมนจิแอนเต้ นักข่าวของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาของอังกฤษ เปิดเผยว่า เชลซี กาหัว เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ดาวยิง ดอร์ทมุนด์ เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า โดยอีกคนหนึ่งคือ เดแคลน ไรซ์

    เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กาหัว เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ กองหน้า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักสำหรับการเสริมทัพของพวกเขาในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า ตามการเปิดเผยของ อังเจโล่ แมนจิแอนเต้ นักข่าวของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดี

    ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เชลซี จ่ายเงินไป 47.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,900 ล้านบาท) เพื่อดึง ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าชาวเยอรมันมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก แต่ตอนนี้แข้งวัย 24ปีก็ยังไม่สามารถระเบิดฟอร์มเก่งกับทีมได้ หลังเพิ่งทำไปเพียง 4 ลูกจากการลงเล่นในลีก 14 นัด

    นอกจาก ฮาแลนด์ แล้วนั้น เดแคลน ไรซ์ กองกลาง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็เป็นอีก 1 แข้งที่ เชลซี เล็งเอาไว้เป็นเป้าหมายหลัก ขณะที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ก็พร้อมที่จะโละแข้งหลายราย ไม่ว่าจะเป็น อันโตนิโอ รือดิเกอร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, จอร์จินโญ่, มาร์กอส อลอนโซ่, รอสส์ บาร์คลี่ย์, แดเนี่ยล ดริงค์วอเตอร์ และ วิคเตอร์ โมเซส



ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> aisufabet.com | 4thinkufabet.com

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563

แลมพาร์ด ติงแข้ง เชลซี ติดประมาททำพ่าย วูล์ฟส์

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ตำหนิลูกทีมติดประมาทเกินไป ในเกมบุกไปพลิกพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-2 ชี้เกมระดับ พรีเมียร์ลีก ผ่อนคันเร่งไม่ได้เลย 

แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี เชื่อว่า ลูกทีมของตนมั่นใจกับฟอร์มการเล่นของตัวเองมากเกินไป ทำให้สุดท้ายต้องพบกับความปราชัยในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ "สิงห์บลูส์" บุกไปแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-2 เมื่อวันอังคารที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา

โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยิงให้ เชลซี ขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 49 กระนั้นนาทีที่ 66 "หมาป่า" ตามตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ จากการยิงของ ดาเนี่ยล โปรเดนซ์ ซึ่งเกมทำท่าจะจบลงด้วยการแบ่งคะแนนกันไป แต่นาทีที่ 90+5 เจ้าถิ่นมาได้ประตูพลิกคว้าชัย จากการหลุดเข้าไปยิงสุดเฉียบของ เปโดร เนโต้ ทำให้ "สิงห์บลูส์" แพ้เกมลีกสองนัดติด ยังคงมี 22 แต้มเท่าเดิม หลังลงแข่งไปแล้ว 13 นัด รั้งอันดับห้าในตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก 

"มันเป็นเรื่องของฟอร์มการเล่น ฟอร์มการเล่นที่้ดีจะทำให้คุณได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ ซึ่งเกมนี้เราก็ทำกันได้ดีนะ แต่เด็กๆ อาจจะคิดว่า เรากำลังเล่นได้ดีเพียงพอแล้ว และเมื่้อคุณคิดแบบนั้น มันก็ต้องเกิดอะไรแบบนี้แหละ นี่คือ พรีเมียร์ลีก หากคุณไม่เค้นฟอร์มออกมา คุณก็จะแพ้" แลมพาร์ด เปิดใจหลังเกม 



ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/  |  http://gpfgoyang.com/

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2563

มาดริดข่มในรัง "โมดริช" นำฟัดแอธ.บิลเบา

    ซีเนดีน ซีดาน นายใหญ่ "ราชันชุดชาว" ผลงานกำลังมั่นใจหลังคว้าชัยมา 3 เกมติดต่อกันความพร้อมเกมนี้วาง ลูก้า โมดริช บัญชาทัพ ทางด้าน แอธ.บิลเบา ของ กาอิซก้า การีตาโน่ อยู่ในช่วงสะดุดไร้ชัยมา 3 มี อีเกร์ มูเนียอิน ลงล่าสกอร์สู้ ในศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน คืนวันอังคารที่ 15 ธ.ค. นี้

    เรอัล มาดริด ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจหลังคว้าชัยมา 3 เกมติดต่อกัน โดยเกมลีกน่าล่าสุดเปิดบ้านเอาชนะ แอต.มาดริด 2-0 

    ความพร้อมของทีมในเกมนี้ ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส จะพลาดใช้งาน เอ็นรีเก้ กาเซมีโร่ ในเกมนี้เนื่องจากติดโทษแบน 1 นัด แต่โชคดีที่ได้ เฟเดรีโก้ บัลเบร์เด้ ฟิตกลับมาเสียบแทนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับพอดี 

    ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ลูก้า โมดริช กับ โทนี่ โครส พร้อมลงเล่น ในแนวรับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ลงเฝ้าเสาแทน แบ็กขวา ดานี่ การ์บาฆาล ส่วนเซนเตอร์ฮาล์ฟ เซร์คิโอ รามอส ปักหลักยืนกับ ราฟาแอล วาราน และ แบ็กซ้าย แฟร์กล็อง เมนดี้ ลงสนามตามปกติ  

    ในแดนหน้า คาริม เบนเซม่า ล่าตาข่ายร่วมกับ ลูกัส บาสเกซ ที่กำลังร้อนแรง และ วินิซิอุส จูเนียร์ อย่างไรก็ตาม ในรายของ เอแดน อาซาร์, มาเรียโน่ ดิอ๊าซ, ลูก้า โยวิช และ มาร์ติน โอเดการ์ด ยังไม่พร้อมลงสนามแอธ.บิลเบา ออกไปเสมอกับ แอธ.บิลเบา 2-2 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ทีมเยือนไร้ชัยมา 3 นัดแล้ว 

    สภาพทีมในเกมนี้ กาอิซก้า การีตาโน่ เทรนเนอร์ของทีม ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บมากนัก แต่อาจจะปรับผู้เล่นบางตำแหน่งเพื่อความสด ในแนวรับ อูไน นูนเญซ มีโอกาสลงเป็นเซนเตอร์ตัวจริงแทน เยราย อัลบาเรซ โดยยืนคู่กับ อินญิโก้ มาร์ติเนซ ส่วนแบ็กทั้งสองข้างเหมือนเดิม อันเดร์ กาป้า อยู่ทางขวา และซ้ายเป็น ยูริ เบร์ชีเช่ 



ติดตาม >> https://bulahdelahevents.com/  | http://banknegar.com/

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เทคนิคแต่งหน้า ต้อนรับหน้าฝน ไม่ให้เยิ้ม

ช่วงนี้ฤดูฝน เดี๋ยวก็ตก เดี๋ยวก็ตก ถ้าไม่พกร่มก็คือจากสวยๆ กลายเป็นพรายน้ำเลยจ้าแม่! วิถีชะนีอย่างเรา นอกจากจะต้องพกร่มแล้ว เมคอัพก็ต้องแต่งให้กันฝนด้วย ไม่งั้นล่ะก็ ทั้งเยิ้ม ทั้งเละ พังไม่ไหว!! วันนี้เราก็เลยมีทริคแต่งหน้าในช่วงฤดูฝนมาแนะนำสาวๆ กันค่ะ ว่าควรแต่งยังไงให้รอดไม่เละ!



1.รองพื้นต้องคุมมันกันน้ำ

ก่อนอื่นเลยงานรองพื้นต้องเลือกแบบกันน้ำได้ ขอย้ำเลยนะคะซิส! ถ้าจะให้ดีก็ควรคุมมันด้วย เพราะหน้าฝนนอกจากเราจะเปียกฝนแล้ว อากาศยังจะอบอ้าวชวนให้หน้ามันเยิ้มเลยแหละ ดังนั้นเลือกรองพื้นที่คุมมันและกันน้ำได้ไว้ก่อน แล้วกดย้ำๆ ด้วยฟองน้ำให้แน่น จะได้ไม่หลุดระหว่างวันค่ะ


2.เครื่องสำอางทุกอย่างต้องเนื้อครีม


ในการลงเครื่องสำอางต่างๆ ทั้งอายแชโดว์ บลัช เฉดดิ้ง หรือไฮไลท์ ในช่วงหน้าฝนแบบนี้แนะนำให้ใช้เครื่องสำอางเนื้อครีมหรือเนื้อน้ำ เพื่อให้เครื่องสำอางติดแน่นกลืนไปกับผิวได้มากที่สุด ถ้าใช้แบบฝุ่นจะหลุดง่าย และอาจจะกลายเป็นก้อนไหลเยิ้มเลอะเทอะเวลาโดนน้ำได้ ดังนั้นแต่งหน้าทุกขั้นตอน จงใช้เครื่องสำอางแบบครีมหรือแบบน้ำเท่านั้นค่ะซิส


3.เขียนคิ้วด้วยแทททูหรือเมจิก

หลายคนถ้าไม่มีคิ้วก็คือจบสิ้นทุกอย่างแล้ว! ดังนั้นถ้าฝนตกคิ้วเราก็ต้องยังอยู่!! แนะนำให้ใช้ที่เขียนคิ้วแบบแทททูที่ทาแล้วติดข้ามวัน หรือเป็นแบบเมจิกที่สีจะติดและกลืนไปกับผิว ส่วนมากจะมีการกันน้ำได้ด้วย ทำให้เวลาเปียกฝนคิ้วก็ไม่หลุดง่ายเหมือนการเขียนคิ้วด้วยฝุ่นหรือดินสอนะคะ

4.อายไลเนอร์กับมาสคาร่าต้องกันน้ำขั้นสุด

ส่วนใครเจอปัญหาฝนตกแล้วตาแพนด้าไม่ไหว! รีบไปหาซื้ออายไลเนอร์ที่กันน้ำขั้นสุด และมาสคาร่ากันน้ำระดับเทพมาใช้ได้เลยค่ะ สำคัญมาก! ส่วนใหญ่เราจะตายกันที่อายไลเนอร์และมาสคาร่านี่แหละ ที่จะพาให้ทุกอย่างดำปี๋ โดนน้ำแล้วไปก่อนใครเพื่อน จำไว้ว่าถ้าหาแบบกันน้ำไม่ได้ ให้ใช้แบบสีใส หรือไม่ใช้ซะเลยดีกว่า


5.ลิปทินท์หรือจิ้มจุ่มแมทเท่านั้นโดนน้ำก็รอด

ส่วนงานลิป หลายคนชอบทาลิปสติกแบบแท่ง ซึ่งสีค่อนข้างชัดและติดทนค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็เลอะเทอะง่ายเหมือนกัน ใครอยากให้ปากสวยสู้ฝน แนะนำให้ใช้ลิปทินท์ที่ติดกลืนไปกับสีปากเลยดีกว่า หรือจะเป็นลิปจิ้มจุ่มแมทที่แห้งแล้วแนบสนิทไปกับปากก็ได้ เพราะเวลาเจอฝนจะได้สีลิปยังอยู่ ไม่ซีดเป็นจูออน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แจกเทคนิคเซ็ตขนคิ้ว เหมือนดารา ทำยังไงให้ฟู ตั้ง สวยทนทั้งวัน ตามมาดู

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

แจกเทคนิคเซ็ตขนคิ้ว เหมือนดารา ทำยังไงให้ฟู ตั้ง สวยทนทั้งวัน ตามมาดู

ยังคงมาแรงไม่มีตก สำหรับ เทรนด์คิ้วตั้ง ฟู แต่จะใช้วิธีไหนถึงจะได้คิ้วที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งทื่อ เรียงตัวสวย งานนี้จะมีทิปส์อะไรบ้าง ที่จะช่วยให้คิ้วตั้งสวยทนทั้งวัน ตามมาดู



ใช้มาสคาร่าปัดคิ้ว

จะชอบเขียนคิ้วให้ตั้ง เหมือนขนคิ้วฝรั่ง ขนคิ้วเยอะ ขนคิ้วชัด ขนคิ้วหนา มายจะพยายามหาวิธีที่จะช่วยให้คนไทยมีคิ้วเยอะขึ้น ก็จะใช้มาสคาร่าตาสีน้ำตาล ที่ไม่ใช่มาสราค่าคิ้ว มาปัดเพิ่มไปเลย เพราะมาสคาร่าสำหรับคิ้ว ใด้แค่สี หรือบางแบรนด์ที่มีไฟเบอร์ผสมก็จะบางเบามาก ถ้าเราใช้มาสคาร่าตา มันช่วยให้ขนตาทั้งยาว ทั้งหนา กันน้ำสุดๆ ก็เลยจะใช้มาสคาร่าตาปัดคิ้วเป็นหลักก่อนเลย

สร้างขนคิ้วด้วยอายไลเนอร์สีน้ำตาล

หลักจากปัดมาสคาร่าแล้ว จะใช้อายไลเนอร์สีน้ำตาล เส้นเล็กที่สุด เติมส่วนที่หายไป ที่สุด เขียนเป็นเส้นๆ สร้างเส้นปลอมๆ ให้ดูเต็ม ต้องฝึกนิดหนึ่งแต่ถ้าทำได้แล้วจะได้เส้นขนที่ดูเป็นธรรมชาติดูไม่โบ๊ะแน่นอน

มาสคาร่าเจลใสล็อคคิ้ว

- การใช้มาสคาร่าเจลใสปัดปิดท้าย จะช่วยให้ทนขึ้น คิ้วจะเปียก ถือเป็นการเซตคิ้วไปด้วย

- มาสคาร่าเก่า ปัดขนตาแล้วไม่เด้ง อย่าทิ้ง

- ถ้าคนไหนไม่ได้ทำสีผม ก็ใช้มาสคาร่าตาสีดำที่รู้สึกว่าเวลาเอามาปัดตาแล้วเริ่มแห้ง ปัดขนตาแล้วไม่ขึ้น ก็เอามาปัดคิ้วได้เลย

ปัญหามาสคาร่าติดแปรง แก้ได้ด้วยวิธีนี้

- การใช้มาสคาร่าตาปัดคิ้วให้สวย ตอนเปิดใหม่เวลาดึงออกมาจากแท่ง จะมีมาสคาร่าที่แปรงเยอะมาก เราอาจจะต้องซับทิชชูนิดหน่อยแล้วค่อยปัด เพื่อซับส่วนเกินออก

- ลิฟต์คิ้ว ขนคิ้วตั้งจริง แต่ไม่มีมิติเท่ากับปัด

- การลิฟต์คิ้ว ทำให้คิ้วตั้งจริง แต่ผลที่ได้จะไม่เหมือนกับการที่เราปัด ขนจะตั้งติดไปกับเนื้อ จะไม่เหมือนคิ้วฝรั่งที่มีทั้งเยอะ ทั้งหนา จะไม่ได้ได้ทุกมิติ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วิธีแต่งตา 10 แบบ ที่มือใหม่ควรลอง

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วิธีแต่งตา 10 แบบ ที่มือใหม่ควรลอง


มือใหม่อยากหัดแต่งตาให้สวยๆ แต่ยังแต่งไม่ค่อยเก่ง ลองมาฝึกแต่งตาตามนี้กันดูค่ะสาวๆ วันนี้เรารวมวิธีแต่งตาสไตล์เกาหลี ที่สายฝอก็เอาไปแต่งได้ เป็นไอเดียที่สามารถใช้ได้หลายโอกาส แค่เปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆ ก็เหมือนแต่งหน้าลุคใหม่ทุกวันเลยนะจะบอกให้












ใครเพิ่งเริ่มต้นกลัวว่าจะแต่งออกมาแล้วดูแรงไป ก็แนะนำให้ใช้โทนสีอ่อนๆ ไว้ก่อนค่ะ แต่ถ้าใครอยากได้แบบหลากหลายแนว ก็จัดเต็มฝึกแต่งไปตามนี้ได้เลย รับรองว่าเอาไปใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวัน แต่งไปงาน แต่งออกงาน หรือจะแต่งไปปาร์ตี้ ไปดูคอนเสิร์ตก็ได้ ลองไปดูกันเลย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

5 วิธีเติมน้ำให้ผิว เพื่อผิวสวยชุ่มชื้นตลอดวัน


วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2563

5 วิธีเติมน้ำให้ผิว เพื่อผิวสวยชุ่มชื้นตลอดวัน

สาวๆ ทั้งหลายไม่ว่าใครก็อยากให้ผิวตัวเองดูสุขภาพดี มีความชุ่มชื้นฉ่ำน้ำกันทั้งนั้นใช่หรือไม่ แต่การนั่งเฉยๆ ย่อมไม่ได้เป็นการทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดีได้ ดังนั้นลองมาดูวิธีที่เราได้รวบรวมมาฝากกันดีกว่า ว่าจะเติมความฉ่ำให้ผิวได้อย่างไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

1.เลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสม
การทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น สวยฉ่ำนั้นการเลือกใช้สกินแคร์นับว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หากคุณเป็นคนผิวแห้งที่ต้องใช้ครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ก็ต้องเลือกสกินแคร์ที่ไม่หนักผิวจนเกินไปและต้องมีสารบำรุงที่พอเหมาะกับใบหน้าด้วย
2.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ยิ่งในช่วงที่อากาศร้อนมากๆ หรืออากาศมีความแห้งมาก เช่น ในช่วงหน้าหนาว การดื่มน้ำให้เพียงพอจะเป็นการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
3.ใช้โลชั่นบำรุงผิว
หากคุณอยากให้ผิวกายมีความเนียนนุ่มและชุ่มชื้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการทาโลชั่นบำรุงผิวกาย แต่หากคุณเป็นคนที่มีผิวมัน หรือกลัวความเหนอะหนะ แนะนำให้ใช้เป็นโลชั่นแบบเจลแทน เพราะเจลจะมีส่วนประกอบหลักคือน้ำทำให้การซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวนั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งคราบความเหนียวเหนอะหนะไว้อีกด้วย
4.ป้องกันผิวด้วยครีมกันแดด
ถ้าคุณได้ทำการบำรุงผิวหน้าผิวกายเป็นอย่างดี แต่ไม่ยอมใช้ครีมกันแดดละก็ บอกได้เลยว่าผิวที่ได้รับการบำรุงนั้นจะต้องเสียเปล่าอย่างแน่นอน เพราะรังสียูวีนั้นเป็นตัวที่ทำลายชั้นผิวได้เป็นอย่างดี และรังสียูวีก็ยังสามารถทำลายชั้นผิวที่เป็นชั้นหนังกำพร้าได้อีกด้วย ดังนั้นมาปกป้องผิวของเราด้วยการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านกันดีกว่า
5.สครับผิว
การสครับผิวนั้นไม่จำเป็นต้องทำทุกวันแต่ควรทำเป็นประจำทุกอาทิตย์ โดยคุณสามารถหาสูตรสครับที่ชื่นชอบ หรืออาจใช้สครับสำเร็จรูปที่มีวางขายอยู่ตามท้องตลาด และทำการสครับ โดยภายในหนึ่งอาทิตย์สามารถสครับได้ วันเว้นวัน 
หรืออาทิตย์ละสองถึงสามครั้งแล้วแต่สภาพผิวและสครับที่ใช้ โดยคุณต้องทราบว่าสภาพผิวของคุณนั้นเป็นอย่างไร หากผิวได้รับการเผาไหม้จากแสงแดด การสครับที่ดีที่สุดคือการสครับด้วยว่านหางจระเข้สด หรืออาจเป็นเจลว่านหางจระเข้เพื่อให้ผิวได้ฟื้นตัวจากการถูกเผา
หากคุณได้อ่านแล้วก็ควรเริ่มดูแลตัวเองเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อทำให้ผิวที่ยังเยาว์วัยของคุณแลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอแม้อายุของคุณจะเพิ่มมากขึ้นก็ตาม
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เทคนิคเนรมิตปากสวยอิ่ม แบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอ

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เทคนิคเนรมิตปากสวยอิ่ม แบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอ


1.ทาลิปกลอสเฉพาะจุด

โดยมีเทคนิคเฉพาะ คือควรทาลิปกลอสลงไปแค่ช่วงกลางของริมฝีปากทั้งบนและล่าง แนะนำให้ทาแบบยั้งมือ ไม่ให้เยิ้มจนเกินไป และควรจะเลือกใช้ลิปกลอสสีใสจะเป็นการดีที่สุด เพื่อที่จะได้ทาลิปสติกสีอื่นทับลงไปได้อย่างสวยงามและทำให้ริมฝีปากดูหนาขึ้นมาได้อย่างเป็นธรรมชาตินั่นเอง

2.เบนความสนใจไปที่การแต่งตา

เป็นกลยุทธ์การดึงจุดเด่น กลบจุดด้อย โดยการเน้นการแต่งแต้มดวงตาให้สวยงามกลมโต แลดูมีเสน่ห์ชวนมอง และนอกจากแต่งตาให้สวยสะพรึงแล้ว สาวๆ ควรเขียนคิ้วให้ดูสวยเฉี่ยว รับกับดวงตา ทั้งนี้อาจเพิ่มความน่าสนใจด้วยการติดขนตาให้ยิ่งหวานฉ่ำ เพียงเท่านี้ทุกสายตาก็ต่างจ้องมองไปที่ดวงตาคู่งามนี้ แทนที่จะให้ความสนใจกับริมฝีปากบางของเรา

3.สครับริมฝีปากอาทิตย์ละครั้ง

การสครับก็จะช่วยให้ริมฝีปากดูสวยสุขภาพดีขึ้นมาได้เหมือนกัน เพียงนำน้ำตาลทรายเม็ดใหญ่ๆ ที่มักใช้ในการชงกาแฟ 1 ช้อนชา ผสมเข้ากับน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย แล้วจึงนำมาสครับเบาๆ ประมาณ 15 นาที เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากของเราด้วยลิปมัน หมั่นสครับเพียงอาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง ก็จะทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกไปอย่างง่ายดาย และเผยริมฝีปากที่ดูสวยน่าจุ๊บมากขึ้น

4.ปกป้องริมฝีปากจากแสงแดด

อันที่จริงริมฝีปากของผู้หญิง ก็ถือเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่ค่อนข้างบอบบาง และต้องการการปกป้องจากรังสียูวีที่ร้อนแรงในแต่ละวันไม่แพ้กับผิวส่วนอื่นๆ เลย ดังนั้น เราจึงควรหาลิปมันหรือลิปสติกที่มีส่วนผสมของกันแดดอย่างน้อย SPF 15 ขึ้นไป เพื่อป้องกันไม่ให้เรียวปากหมองคล้ำหรือเหี่ยวย่นได้

5.ดูแลริมฝีปาก แม้ยามหลับ

ผิวหน้าต้องการ Night cream ฉันใด เรียวปากของสาวๆ ก็ต้องการลิปมันเพิ่มความชุ่มชื้นก่อนนอนฉันนั้น ถ้าไม่อยากให้ริมฝีปากแห้ง หยาบกร้านและบางไปมากกว่านี้ อย่าลืมทาลิปมันก่อนนอนทุกคืนด้วยนะคะ แล้วคุณจะมีริมฝีปากที่สวยเป๊ะได้อย่างไม่ยาก

เทคนิคการแต่งหน้าสำหรับมือใหม่

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เคล็ดลับ ดูแลผมทำสี ให้สีคงสวยสด ไม่หลุดง่าย

เคล็ดลับ ดูแลผมทำสี ให้สีคงสวยสด ไม่หลุดง่าย ที่สาวๆทุกคนสามาถทำได้

การย้อมผม ให้มีสีสันบนเส้นผมเป็นความสวยงาม ที่เหล่าสายแฟชั่นชื่นชอบ เคล็ดลับ ดูแลผมทำสี ดังนั้นจึงมีสีใหม่ๆ ถูกผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ของคนที่ชอบเปลี่ยนสีผมมากขึ้น แต่เมื่อทำสีผมบ่อยครั้งย่อมส่งผลเสียต่อเส้นผม เกิดเป็นผมแห้งเสีย ชี้ฟู และสีซีดจางลง ดังนั้น ลองมาดู 7 เทคนิคที่จะช่วยดูแลผมทำสีของคุณให้ยังคงสวยงามและให้สีสันที่สดใสได้ตลอดเวลา มีดังนี้ค่ะ

1.ทำความสะอาดผมเท่าที่จำเป็น
การทำความสะอาดเส้นผมถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ควรสระผมบ่อยครั้งมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่ทำสีผมมาใหม่ควรสระผมเพียงแค่ 2-3 วันต่อ 1 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้สีผมซีดจางเร็วจนเกินไป ที่สำคัญคือจะต้องสระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ เลี่ยงการใช้น้ำอุ่นเพราะอาจจะทำให้สีผมซีดจางเร็วด้วยเช่นกัน
2.อย่าลืมใช้คอนดิชันเนอร์
ถ้าต้องการให้สีผมคมชัดและผมยังคงนุ่มสลวย ไม่กลายเป็นผมเสียชี้ฟูจนเหมือนไม้กวาด คุณควรหมักผมด้วยครีมนวดหรือคอนดิชันเนอร์ที่เป็นสูตรเข้มข้น เพื่อเป็นตัวฟื้นฟูเส้นผมทำสีและยังเป็นการล็อคสีผมให้ติดทนนานมากขึ้น โดยให้ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเช่นเดียวกัน
3.ใช้เซรั่มบำรุงผมเสมอ
ถ้าต้องการให้ผมทำสียังคงได้สีที่สวยสดใสและฟื้นบำรุงเส้นผมเสียได้รวดเร็ว ควรเลือกใช้เป็นเซรั่มบำรุงผมที่จะซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ก่อให้เกิดปัญหากับหนังศีรษะและยังช่วยทำให้ผมทำสีรักษาสีผมเอาไว้ได้อย่างสวยงาม
4.ใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม
ถ้าคุณต้องการให้ผมทำสียังคงมีความสวยงามและให้สีสันที่โดดเด่นอยู่เสมอ พร้อมทำให้เส้นผมยังคงเงางาม ไม่แห้งเสีย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาสำหรับคนทำสีผมโดยเฉพาะ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะทำขึ้นมาเพื่อเติมเต็มสารอาหารเข้าสู่เส้นผมและทำการล็อคสีผมให้ยังคงโดดเด่นอยู่เสมอ
5.บำรุงด้วยทรีทเม้นท์
สำหรับผู้ที่ทำสีผมบ่อยครั้ง ควรทำทรีทเม้นท์เส้นผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อเป็นการเติมเต็มโปรตีนและสารอาหารให้กับผมทำสี จึงช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมให้กลับมาเป็นผมสวยอย่างรวดเร็ว พร้อมการบำรุงอย่างล้ำลึก จึงทำให้สีผมยังคงสดใส และไม่มีปัญหาเรื่องผมเสียกลับมารบกวนอย่างแน่นอน

6.หลีกเลี่ยงความร้อน
การทำสีผมจะทำให้ผมแห้งเสียได้ง่าย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงความร้อนที่จะเป็นการซ้ำเติมให้ผมเสียมากขึ้น โดยเฉพาะการเป่าไดร์, การใช้เครื่องรีดผม หรือเครื่องดัดผม ถ้าต้องการใช้เครื่องทำผมเหล่านี้ควรทิ้งระยะเวลาหลังจากทำสีผมไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ เพื่อเป็นการเว้นระยะให้ผมได้ฟื้นบำรุงและความร้อนจะไม่ทำให้สีผมซีดจางเร็วอีกด้วย
7.ใช้ลมเย็นเป่าผม
เลือกใช้เป็นไดร์เป่าผมแบบลมเย็นหรือใช้เป็นลมของพัดลมเป่าผมให้แห้งหลังการสระผม หรือแม้แต่การจัดทรงผมควรใช้เป็นลมเย็นด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผมเสียมากขึ้นและยังเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้สีผมซีดจางเร็วจนเกินไป
ถ้าคุณไม่อยากให้ผมทำสีของคุณมีสีที่ซีดจางลงอย่างรวดเร็วและกลายเป็นผมเสียที่ดูไม่น่ามอง เป็นผมจัดทรงยาก คุณควรทำตามทั้ง 7 เทคนิคนี้อยู่เสมอ เพื่อทำให้สีผมของคุณยังคงสดใสและเป็นผมสุขภาพดีตลอดเวลา

ภาพจาก sanook

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ก็คนมันฮอต! "3 บิ๊กทีมยุโรป" เดินหน้าลุยกระชาก "ป็อกบา" เสริมทัพ


อินเตอร์ มิลาน ยอดทีมในกัลโช เซเรีย อา อิตาลี พร้อมลงแข่งขันคว้าตัว ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาร่วมทีมในซัมเมอร์ปีนี้

ป็อกบา ถูกจับจ้องอนาคตกับยูไนเต็ดมาโดยตลอด หลังแทบไม่มีส่วนร่วมกับพลพรรคปีศาจแดงในฤดูกาล 2019/20 นี้ เนื่องจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน และล่าสุดเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดข้อเท้าขวาเมื่อต้นปี 2020 นี้ และต้องพักยาวเกือบ 3 เดือน

ที่ผ่านมา สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 จาก เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส ในตลาดซื้อ-ขายนักเตะกลางปีนี้ ซึ่งดูมีภาษีพอๆกันทั้งคู่ โดยราชันชุดขาวพร้อมทุ่มค่าเหนื่อยให้ไม่อั้น ส่วนทัพม้าลายก็เป็นอดีตต้นสังกัดที่เจ้าตัวผูกพันอย่างดี

แต่ล่าสุด เป็น "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน กำลังมองถึงความเป็นไปได้สำหรับการเซ็นสัญญากับมิดฟิลด์วัย 27 ปีที่เคยร่วมงานกับ อันโตนิโอ คอนเต เทรนเนอร์ของอินเตอร์คนปัจจุบัน สมัยที่โค้ชชาวอิตาเลียนคุมทีมยูเวนตุสมาแล้ว โดยอินเตอร์ก็พร้อมจ่ายหนัก เนื่องจากมีเจ้าของทีมเป็นกลุ่มมหาเศรษฐีชาวจีนหนุนหลังอยู่นั่นเอง

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2563

"มาร์กี้" ยกกระติบ ป้อนข้าวเหนียว "มีก้า-มีญ่า" สองแฝดมีฟีดแบคต่างกันมาก




มักจะมีคลิปหรือรูปภาพให้แฟนๆ ได้เรียกรอยยิ้มอยู่เสมอ สำหรับคู่พี่น้อง มีก้า-มีญ่า  ลูกฝากแฝดของนางเอกสาว มาร์กี้ ราศรี และ ป๊อก ภัสสรกรณ์
อย่างล่าสุด มาร์กี้ ก็ได้เผยคลิปน่ารักๆ ผ่านทางไอจีสตอรี่ ซึ่งเป็นช่วงที่ น้องมีญ่า กำลังนั่งเอามือน้อยๆ จกข้าวเหนียวในกระติบหยิบมาใส่ปาก กินอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจใคร
ตรงกันข้ามกับ มีก้า ที่ดูเหมือนจะยังไม่ชินเท่าไหร่ เมื่อ มาร์กี้ เดินนำมาป้อนถึงที่ เจ้าตัวเลยออกอาการอึ้งๆ ปนเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ข้าวเหนียวก้อนดังกล่าวจึงตกเป็นอาหารแสนอร่อยให้กับ พี่สมคิด สุนัขคู่ใจของบ้านนี้นี่เอง



วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563

ต้องกล้าทุ่ม! "เชียเรอร์" แนะผีแดงซื้อ "3 แข้งเทพ" ถ้าอยากคว้าแชมป์



อลัน เชียเรอร์ ตำนานกองหน้าชาวอังกฤษ ออกโรงเชียร์​แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซื้อแข้งระดับบิ๊กเนมเข้ามาเสริมทัพอีก 3 ราย ถ้าหากอยากคว้าแชมป์ลีกให้ได้ในเร็วๆนี้

"ด้วยสถานการณ์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนี้ผมเชื่อว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา อาจจะต้องพยายามขายผู้เล่นบางส่วนออกไปให้ได้เสียก่อน เพื่อนำเงินมาลงทุนซื้อแข้งใหม่เสริมทัพ" ฮอตช็อตกล่าว

"ด้วยความที่พวกเขาไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างจริงจังมาหลายปีแล้ว ขณะที่ยังมีการใช้เงินออกไปมหาศาลต่อเนื่องทุกฤดูกาล ทำให้ทีมนี้แตกต่างจากยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พอสมควร"

"อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีโอกาสทำเงินเข้าสโมสรได้มากมายแบบด่วนจี๋หากสามารถคว้าแชมป์เรียกศรัทธาจากคอลูกหนังในเร็วๆนี้"

"ฉะนั้น ผมจึงอยากแนะนำว่า ในเมื่อคุณมีศักยภาพมากเพียงพอจะเสี่ยง ก็ควรจัดบิ๊กดีลสัก 3 รายในฤดูกาลหน้าซะเลยสิ แชมป์อยู่ตรงหน้าแล้วนะ แค่ลองลุยดูสักตั้งเป็นไง"

"เท่าที่ทราบมาคือมีทั้ง จาดอน ซานโช, แฮร์รี เคน รวมถึง แจ็ค กรีลิช ที่อาจจะกำลังเจรจาหรือตามจีบอยู่ เอามาให้ได้ก่อน ส่วนอีกคนค่อยมองหาตัวเหมาะๆอีกทีก็ยังไม่สายเกินไปนัก"




ติดตาม ข่าวกีฬา ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ แทงหวยออนไลน์

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2563

บัวเต็ง & มุลเลอร์ ดาวดวงเดิมที่เปล่งประกายด้วยฝีมือของ ฮันซี่ ฟลิค

หากย้อนกลับไปในช่วงเปิดฤดูกาล คงไม่มีใครคิดว่า สุดท้ายแล้วนักเตะที่จะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการพาบาเยิร์น มิวนิค ทะยานกลับขึ้นมายึดตำแหน่งจ่าฝูงได้อีกครั้งจะเป็นสองแข้งจอมเก๋าประจำทีมอย่างเชโรม บัวเต็ง และ โทมัส มุลเลอร์

เมื่อช่วงต้นปีก่อน โยอาคิม เลิฟ เฮดโค้ชทีม "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ได้ออกมาบอกว่ามุลเลอร์, บัวเต็ง และ มัตส์ ฮุมเมิลส์ ปราการหลังจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของเขาอีกต่อไป นอกจากนั้น บาเยิร์นยังคว้าตัวนักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพมากมายเมื่อช่วงเปิดตลาดนักเตะ ทำให้สถานการณ์ของสองรายแรกนั้นดูจะริบหรี่ลงเรื่อยๆ
การมาของคูตินโญ และเปริซิช ทำให้บาเยิร์นมีตัวเลือกในการเล่นเกมรุกมากขึ้น ขณะที่การคว้าตัวปราการหลังดีกรีแชมป์โลกชาวฝรั่งเศสอย่างลูคัส แอร์กน็องเดซ และ เบนฌาแม็ง ปาวาร์ เข้ามา ก็ยิ่งทำให้โอกาสในการยึดตำแหน่งตัวจริงของบัวเต็งน้อยลงไปทุกที

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 มุลเลอร์ก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ของบาเยิร์นภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟาน กัล มาจนถึงเมื่อสิ้นฤดูกาลที่ผ่านมาที่มุลเลอร์คว้าถาด "ไมสเตอร์ชาเล่อ" หรือแชมป์บุนเดสลีกาไปแล้วถึง 8 สมัย ทว่าในซีซั่นที่ผ่านมา เขากลับถูกลดบทบาทลงภายใต้การคุมทีมของนิโก โควัช โดยถูกเปลี่ยนตัวออกถึง 17 เกมจาก 28 เกมที่ได้ลงสนามเพราะต้องแข่งกันทำผลงานกับฮาเมส โรดริเกวซ เพื่อต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกกัน แต่เขาก็ยังทำผลงานได้ไม่เลว ยิงไป 6 ประตู และทำอีก 9 แอสซิสต์ให้กับทีม "เสือใต้"